HAPPY BIRTHDAY NORMAN ROCKWELL
“ผมจะถ่ายทอดให้ผู้คนที่ไม่ทันสังเกตได้เห็นเอง ว่าอเมริกาที่ผมรู้จักนั้นเป็นเช่นไร”
ตำนานศิลปินวาดภาพประกอบชาวอเมริกันที่ถ่ายทอดความเป็น “American Dream” ได้อย่างลึกซึ้ง ผลงานตลอดระยะเวลาชีวิตของเขาล้วนแล้วเล่าวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนอเมริกันได้เป็นอย่างดี ผลงานของเขาได้ช่วยขับเคลื่อนสังคมอเมริกาและสร้างแรงบรรดาลใจให้กับศิลปินอเมริกันมาจวบจนปัจจุบัน
วันนี้ favchair. จะพาทุกคนไปทำความรู้จักผลงานของชายที่ชื่อว่า นอร์มัน ร็อกเวลล์ กันมากขึ้น
ผู้มีบทบทสำคัญในการสร้างภาพจำเกี่ยวกับซานตาคลอส
หากย้อนกลับไปในทศวรรษที่ 1800 ซานตาคลอสของผู้คนในสมัยนั้นไม่ได้เป็นชายร่างกลม ไว้หนวดเครา และมีบุคลิกร่าเริงใจดีอย่างที่ทุกคนรู้จักในวันนี้ ซานตาคลอสในยุคแรกจะเป็นชายร่างซูบผอมมีเครารุงรัง สวมชุดสีเขียวคล้ายเอลฟ์
นอร์มัน ร็อกเวลล์ คือหนึ่งในผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างภาพจำเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของซานต้า ขณะที่เขาอายุเพียง 19 ปี เขาก้าวขึ้นมาเป็นบรรณาธิการศิลปกรรมให้นิตยสาร Boys’ Life ซึ่งในฉบับเดือนธันวาคม พ.ศ. 2456 เขาได้วาดภาพปกนิตยสารที่เกี่ยวกับซานต้าเป็นครั้งแรกในชื่อ "Santa in Snow with Scouts" เป็นเรื่องราวที่ซานต้าเกิดประสบอุบัติเหตุท่ามกลางหิมะ และได้รับการช่วยเหลือจากลูกเสือสองคน
ความสร้างสรรค์ที่น่าจดจำ บนนิตยสารแห่งความเป็น “American Dream”
“ผมจะถ่ายทอดให้ผู้คนที่ไม่ทันสังเกตได้เห็นเอง ว่าอเมริกาที่ผมรู้จักนั้นเป็นเช่นไร”
ตลอดการทำงานร่วมกับ Saturday Evening Post กว่า 47 ปี เขาได้สร้างสรรค์ปกนิตยสารไปถึง 323 ฉบับ ซึ่งแต่ละรูปภาพนั้นสามารถเล่าเรื่องราวความเป็นไปในวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนอเมริกันได้เป็นอย่างดี
Triple Self-Portrait หนึ่งในผลงาน Self-portrait ที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ศิลปะอเมริกา เมื่อลองสังเกตดี ๆ คุณอาจเกิดความสงสัยว่า ทำไมแว่นตาของ Rockwell ที่อยู่ในภาพวาดถึงหายไป นั่นเป็นเพราะว่า ร็อกเวลล์คนที่กำลังวาดอยู่นั้นเป็นเพียงตัวจำลองของศิลปินที่กำลังวาดอยู่อีกที ในยุคนั้นนี่ถือเป็นแนวคิดที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นมาก ๆ นอกจากนั้นในรายละเอียดเล็ก ๆ คุณอาจเห็นถึงผลงาน Self-portrait ของศิลปินที่โด่งดังในประวัติศาสตร์ Durer, Rembrandt, Van Gogh และ Picasso ที่ถูกหยิบนำมาเป็นองค์ประกอบในภาพอีกด้วย
เสรีภาพแห่งอเมริกันชนเบ่งบาน ท่ามกลางวิกฤตสงครามโลก
Four Freedoms ผลงานในปี 1943 คือชุดภาพประวัติศาสตร์อเมริกาที่เป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพชาวอเมริกันอย่างแท้จริง โดยแต่ละภาพนั้นจะประกอบด้วย Freedom of Speech เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น, Freedom to Worship เสรีภาพในการนับถือศาสนา, Freedom from Want เสรีภาพจากความขาดแคลน และ Freedom from Fear เสรีภาพจากความหวาดกลัว
โดยแรงบันดาลใจของชุดภาพนี้มาจากประธานาธิปดีโรสเวลต์ในปี 1941 ที่ต้องการปลุกใจชาวอเมริกันชนที่กำลังหวาดหวั่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ต้องการยกย่องเสรีภาพเหล่านี้ว่าเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับ โดยไม่คำนึงว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ที่ใดในโลก
Freedom from Want ที่มันได้กลายเป็นต้นแบบสำหรับวันขอบคุณพระเจ้าของชาวอเมริกันทุกคน โดยบุคคลในภาพล้วนแล้วมาจากกลุ่มเพื่อน คนรู้จัก และสมาชิกในครอบครัวของร็อกเวลล์เอง หลายคนอาจรู้สึกคุ้นกับภาพนี้ เพราะมันถูกใช้เป็นแรงบันดาลใจ นำไปสร้างสรรค์และตีความในแบบฉบับใหม่อยู่หลากหลายครั้ง
ความทรงพลังของภาพวาด สะท้อนความหลากหลายของเชื้อชาติ
ร็อกเวลล์ได้สร้างแรงกระเพื่อมทางความคิดอีกครั้ง เกี่ยวกับการต่อต้านการเหยียดสีผิว ผ่านผลงานชิ้นแรกบนนิตยสาร LOOK ในปี 1964 กับผลงาน “The Problem We All Live With” ที่ทรงพลังจนในปี 2011 ประธานาธิบดีโอบามาได้ขอนำภาพนี้ไปติดไว้ในทำเนียบขาว
ในภาพวาดนี้คุณจะเห็น Ruby Nell Bridges เด็กหญิงชาวแอฟริกันอเมริกันอายุ 6 ขวบ ที่ถูกพาตัวไปโรงเรียนในนิวออร์ลีนส์ในวันแรกโดยเจ้าหน้าที่สี่นาย โดยบนผนังด้านหลังคำว่า “Nigger” (คำเรียกเหยียดผิวคนดำ) และ “KKK” (Ku Klux Klan ลัทธิชาตินิยมคนผิวขาวหัวรุนแรง) รวมถึงเศษมะเขือเทศที่ถูกขว้างปาใส่
ในภายหลัง Ruby Nell Bridges ในวัยผู้ใหญ่ได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการของ Norman Rockwell Museum อีกด้วย
ส่งต่อแรงบันดาลใจ ฝากไว้ในทุกวงการศิลปะ
แม้จะล่วงเลยไปกว่า 40 ปีแล้ว ที่ร็อกเวลล์ได้จากโลกนี้ไปในวันที่ 8 พฤษจิกายน 1978 แต่ผลงานที่ชายผู้นี้ได้สร้างสรรค์ไว้ให้กับโลกนี้ ยังคงถูกนำมาถ่ายทอดไปในหลากหลายวงการทั้งศิลปะ ภาพยนตร์ และดนตรี
ในภาพยนตร์รางวัลออสการ์ที่ได้แจ้งเกิดนักแสดงทอมส์แฮงค์อย่าง Forrest Gump ผู้กำกับ Robert Zemeckis ได้นำแรงบันดาลใจจากภาพวาดของ Norman Rockwell มาพรรณนาถึงวัฒนธรรมอเมริกันและสร้างสรรค์เมือง Greenbow รัฐ Alabama รวมถึงคาแร็กเตอร์ตัวละคร Forrest Gump ขึ้นมา ซึ่งผู้กำกับได้เขายังแสดงความเคารพต่อผลงานของร็อกเวลล์ “Girl With a Black Eye” ไว้ในฉากภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน อย่างฉากที่แม่ของฟอร์เรสท์ กัมพ์กำลังคุยกับครูใหญ่ในโรงเรียน
ข้ามผ่านมาอีก 2 ทศวรรษ ภาพยนตร์ Anti-hero สุดกวนอย่าง Deadpool 2 ก็ได้หยิบผลงานที่โด่งดัง Freedom from Want มา Parody ใหม่ผ่านโปสเตอร์หนัง โดยใส่ตัวละครในภาพยนตร์แทนกลุ่มเพื่อน คนรู้จัก และสมาชิกในครอบครัวของร็อกเวลล์ และต่อมาอีก 1 ปี ศิลปินสาวเจ้าเสน่ห์ Lana Del Rey ก็นำแรงบันดาลใจจากผลงานของร็อกเวลล์มาสร้างสรรค์ผลงานเพลงในอัลบั้ม Norman Fucking Rockwell