ฮาจิโกะเพื่อนรัก สุนัขผู้ซื่อสัตย์แห่งสถานีรถไฟชิบูย่า

ใน วันสำคัญ

เคยคิดไหมว่า เราจะรอใครสักคนได้นานแค่ไหน 

ถ้าสุดท้ายใครคนนั้นจะไม่มีวันกลับมา.. 

เรื่องราวการรอคอยที่มีทั้งรอยยิ้มและน้ำตาของสุนัขที่ชื่อว่า "ฮาจิโกะ" 

สัตว์เลี้ยงที่รอคอยเจ้าของอย่างศาสตราจารย์เอซาบูโร อุเอโนะ ที่ต้องจากไปอย่างกะทันหัน การรอคอยเป็นเวลายาวนานกว่า 9 ปี 9 เดือน 15 วัน ที่ฮาจิโกะเฝ้าคอยศาสตราจารย์อยู่หน้าชานชาลาเพียงลำพังจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

8 มี.ค. 66 นี้ ถือเป็นวันครบรอบ 88 ปีที่ฮาจิโกะได้กลับไปอยู่กับศาสตราจารย์อุเอโนะผู้เป็นที่รัก

วันนี้ favchair. เลยอยากพาทุกคนไปรู้จักเรื่องราวของฮาจิโกะกันมากขึ้น

หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินหรือได้ฟังเรื่องราวของฮาจิโกะมาบ้าง เนื่องจากเคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ถึงสองครั้ง ทั้งต้นฉบับจากทางญี่ปุ่นอย่าง Hachikō Monogatari ในปี 1987 ก่อนถูกดัดแปลงบทอีกครั้งเป็นฉบับอเมริกาอย่าง Hachi: A Dog’s Tale ในปี 2009

 

ฮาจิโกะ สุนัขผู้ซื่อสัตย์ hachiko shibuya

 

ฮาจิโกะนั้นเป็นสุนัขพันธุ์อาคิตะ ที่แต่เดิมถือเป็นสัตว์คู่กายของนักรบซามูไรญี่ปุ่น เรื่องราวของฮาจิโกะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคมปี 1924 ฮาจิโกะในวัย 2 เดือนถูกส่งมาจากเมืองโอดาเตะเพื่อนำมาให้กับเจ้าของใหม่อย่างศาสตราจารย์เอซาบูโร อุเอโนะ ศาสตราจารย์คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยหลวงโตเกียว ซึ่งก็คือมหาวิทยาลัยโตเกียวในปัจจุบันนั่นเอง

 

ฮาจิโกะ สุนัขผู้ซื่อสัตย์ hachiko shibuya

 

โดยกิจวัตรสุดพิเศษระหว่างฮาจิกับศาสตราจารย์นั่นก็คือ การเป็นเพื่อนคู่กายคอยไปส่งที่สถานีรถไฟชิบูย่าในทุก ๆ เช้า ก่อนที่ตกเย็น ฮาจิก็จะมารอรับศาสตราจารย์ที่บริเวณหน้าประตูชานชาลาของสถานีรถไฟชิบูย่าอย่างนั้นเสมอมา แต่ระยะเวลาแห่งความสุขนั้นผ่านไปเร็วเสมอ เพียงปีเศษ ๆ ในวันที่ 21 พฤษภาคม 1925 ศาสตราจารย์อุเอโนะจากไปอย่างกะทันหัน ด้วยภาวะเส้นเลือดในสมองแตกขณะทำการสอน นับเป็นเรื่องเศร้าที่ฮาจิเองก็ไม่ทันจะรับรู้ และศาสตราจารย์อุเอโนะเองก็ไม่มีโอกาสแม้กระทั่งได้ร่ำลาเพื่อนรักตัวน้อยวัยปีเศษของเขา

 

ฮาจิโกะ สุนัขผู้ซื่อสัตย์ hachiko shibuya

 

ฮาจิไม่เคยรู้วันและเวลา มันยังคงเฝ้ารอศาสตราจารย์อุเอโนะอยู่อย่างนั้นวันแล้ว..วันเล่า ซ้ำไปซ้ำมาเป็นเวลากว่า 7 ปีนับตั้งแต่เขาจากมันไป จนเมื่อ 4 ตุลาคม 1932 ซาอิโตะ ฮิโรกิชิ ผู้ก่อตั้งสมาคมอนุรักษ์สุนัขพันธุ์พื้นเมืองญี่ปุ่น ได้นำเรื่องราวของฮาจิที่เขาเฝ้าติดตามไปบอกเล่ากับหนังสือพิมพ์ชื่อดังอย่าง โตเกียว อะซะฮิ-ชิมบุน ก่อนจะถูกตีพิมพ์บทความในชื่อ “เรื่องราวของสุนัขที่เศร้าสร้อย” ซึ่งทำให้ผู้คนเริ่มสนใจในตัวฮาจิโกะอย่างล้นหลาม

 

ฮาจิโกะ สุนัขผู้ซื่อสัตย์ hachiko shibuya

 

ความโด่งดังของฮาจิโกะส่งผลให้มีคนแวะเวียนมาหามันไม่ขาดสาย ฮาจิโกะมีเพลงและบทกลอนเป็นของตัวเอง มีขนมอย่างช็อกโกแลตและเค้กรูปฮาจิโกะ ไปจนถึงของที่ระลึกอย่างตุ๊กตารูปสุนัขเลียนแบบ จนในปี 1934 ก็ได้มีการระดมเงินสร้างรูปปั้นฮาจิโกะเป็นครั้งแรกโดยช่างแกะสลักชื่อดังอย่าง เทรุ อันโด แต่ด้วยสภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 ในตอนนั้นฮาจิโกะคือหนึ่งโลหะที่ถูกระดมไปหลอมเพื่อใช้ในสงคราม

 

 ฮาจิโกะ สุนัขผู้ซื่อสัตย์ hachiko shibuya

 

หนึ่งปีถัดมาหลังจากรูปปั้นฮาจิโกะถูกรื้อถอนไป ในวันที่ 8 มีนาคม 1935 ฮาจิโกะในวัย 11 ปีก็ได้จากโลกใบนี้ไปเพียงลำพังบนถนนสายหนึ่งด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายและการติดเชื้อฟิลาริเอซิส นับเป็นระยะเวลาอันยาวนานกว่า 9 ปี 9 เดือน 15 วัน ที่ฮาจิโกะเวียนวนเฝ้าคอยศาสตราจารย์อุเอโนะอยู่หน้าประตูชานชาลาชิบูย่าเสมอมา ร่างของฮาจิโกะถูกฌาปนกิจ ก่อนนำเถ้าถ่านไปฝังไว้ที่สุสานอะโอะยะมะเคียงข้างกับสุสานของศาสตราจารย์อุเอโนะผู้เป็นที่รัก ส่วนขนของฮาจิโกะถูกเก็บรักษาไปสร้างเป็นหุ่นจำลองที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติญี่ปุ่นในกรุงโตเกียว

 

 ฮาจิโกะ สุนัขผู้ซื่อสัตย์ hachiko shibuya

 

และในปี 1948 ทาเคชิ อันโด บุตรชายของเทรุ อันโด ก็ได้สานต่องานของผู้เป็นพ่อ ด้วยการปั้นฮาจิโกะขึ้นใหม่อีกครั้ง และรูปปั้นนี้ก็กลายเป็นอนุสรณ์แห่งแรกของฮาจิโกะอย่างเป็นทางการ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟชิบูย่า และเป็นที่รู้จักในชื่อ Hachiko Square

 

 ฮาจิโกะ สุนัขผู้ซื่อสัตย์ hachiko shibuya

 

การพบกันอย่างเป็นทางการครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในปี 2015 เนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปีที่ฮาจิโกะได้จากไป มหาวิทยาลัยโตเกียวก็ได้มีการจัดสร้างรูปปั้นฮาจิโกะคู่กับศาสตราจารย์อุเอโนะไว้ที่ภาควิชาการเกษตร สถานที่สุดท้ายที่ศาสตราจารย์อุเอโนะต้องจากฮาจิโกะมานั่นเอง ซึ่งถือเป็นการเติมเต็มเรื่องราวการรอคอยอันแสนยาวนานได้อย่างน่าประทับใจ และเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองจะได้ไปเดินเล่นด้วยกันตลอดไป ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง